อาการเสียวฟัน เจ็บฟัน และปวดฟัน ซึ่งจะเกิดตามมาเป็นลำดับ โดย ฟันผุระยะแรก มักจะเริ่มต้นแสดงอาการเสียวฟันก่อน และพอรอยผุลุกลามมากขึ้น จนเกิด ฟันผุมาก ก็จะพัฒนาจนกลายเป็นอาการปวดฟันในที่สุด
การเดินทางของรอยยิ้มใหม่หลังจัดฟัน
ตรวจสุขภาพช่องปากด้วยตนเองเป็นประจำ
โรคฟันผุมักจะพบได้บ่อยในเด็ก แต่ผู้ใหญ่ก็มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน โดยมีปัจจัยเหล่านี้เป็นส่วนประกอบ
หากคุณปล่อยฟันผุทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา ฟันผุจะมีขนาดใหญ่ขึ้น และลึกมากขึ้น ก็อาจทำให้เกิดปัญหาทางทันตกรรมอื่นๆ ตามมา เช่น ปวดฟัน การติดเชื้อ จนถึงอาจสูญเสียฟันได้
ค่อย ๆ เลื่อนแปรงไปมาในจังหวะสั้น ๆ (กว้างฟัน)
พยายามรับประทานอาหารเฉพาะมื้อหลักแทนการรับประทานอาหารว่างบ่อย ๆ เพื่อช่วยลดจำนวนครั้งที่ฟันจะผลิตกรดที่ย่อยอาหารออกมา
เลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงแข็ง หรือมีขนาดไม่เหมาะสมกับช่องปาก (เล็กไป/ใหญ่ไป)
ทำให้มีปัญหาเรื่องของบุคลิกภาพ เช่น การมีกลิ่นปาก เห็นเป็นรอยผุสีดำที่บริเวณฟันหน้า และถ้าหากปล่อยทิ้งไว้จนมีการแตกหักของตัวฟัน จะทำให้รอยยิ้มไม่สวยงาม อาจมีความกังวลใจ ไม่กล้ายิ้ม หรือไม่กล้าพูด
หากเกิดฟันผุขึ้นมาแล้วไม่ได้รับการรักษา ย่อมจะมีปัญหาตามมาอย่างแน่นอน โดยที่ปัญหาต่างๆที่อาจพบได้ หากไม่ได้รับการรักษาฟันผุอย่างเหมาะสม ฟันผุในระดับเริ่มต้น ได้แก่
อาการของฟันผุระยะแรกอาจไม่ปรากฏให้เห็น แต่ไม่ควรละเลยเพราะหากปล่อยทิ้งไว้ฟันผุจะลุกลามจนทำให้เสียฟันได้
บริโภคอาหารให้เหมาะสมตามหลักโภชนาการ และจำกัดการบริโภคคาร์โบไฮเดรต
คำถามที่พบบ่อย – เวลาทำการของคลินิก
อาการฟันผุระยะแรกมักจะไม่สามารถรู้ได้เพราะไม่มีอาการที่เห็นได้ชัดเจน แต่ในระยะเวลาต่อมาไม่นานจะเริ่มมีอาการที่บอกว่าคุณอาจจะเจอกับโรคฟันผุเข้าแล้ว ดังนี้ ปวดฟัน, ฟันเป็นรู, เลือดออกเวลาแปรงฟัน, สังเกตเห็นจุดสีดำ ๆ หรือฟันเปลี่ยนสีไปจากเดิม ข้อสังเกตเหล่านี้เป็นเพียงอาการเบื้องต้นเท่านั้น ทางที่ดีการเข้าพบทันตแพทย์เพื่อให้ประเมินสุขภาพปากเป็นประจำคือสิ่งที่ดีที่สุด